ประจำเดือนผิดปกติแบบไหนที่จำเป็นต้องพบแพทย์
เลือดประจำเดือนคือเลือดที่เกิดจากการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจากรังไข่ในแต่ละรอบเดือน โดยปกติรอบเดือนจะอยู่ที่ 24 – 38 วัน มาครั้งละไม่เกิน 8 วัน และไม่มีเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบ ส่วนเรื่องของปริมาณค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 80 มิลลิลิตรต่อรอบเดือน ซึ่งหากเราไม่ได้ใช้ถ้วยอนามัยก็คงจะวัดได้ยากพอสมควร มาดูลักษณะของประจำเดือนที่ผิดปกติหรือเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดครับ
ประจำเดือนที่ผิดปกติ
ความผิดปกติของประจำเดือนแบ่งเป็น ดังนี้
- ระยะห่างนานผิดปกติ อาจเกิดจากฮอร์โมนที่ผิดปกติที่ทำให้ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ หรือความผิดปกติของการทำงานของรังไข่ เช่น ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย
- ปริมาณมากเกินไป หรือมีก้อนลิ่มเลือดปน อาจมีโรคในมดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เลือดออกกะปริดกะปรอยไม่ตรงรอบเดือน อาจสัมพันธ์กับโรคติ่งเนื้อในโพรงมดลูก หรือเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ ซึ่งมีโอกาสกลายเป็นโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ได้แก่
- อายุมากกว่า 35 ปี
- น้ำหนักตัวมาก ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30 kg/m2
- เป็นโรค PCOS
- เป็นเบาหวาน
- ใช้ยาสมุนไพรหรือสารออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน
ประจำเดือนผิดปกติต้องตรวจอะไรบ้าง
ในเบื้องต้น คุณหมอจะสอบถามประวัติอย่างละเอียด แล้วจะตรวจภายในเพื่อหารอยโรคในช่องคลอด และตรวจอัลตราซาวด์เพื่อประเมินมดลูก และรังไข่ แต่ถ้าพบความผิดปกติจากการตรวจ หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง อาจต้องตัดชิ้นเนื้อ หรือเก็บเซลล์ไปตรวจเพื่อยืนยันว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ โดยคุณผู้หญิงสามารถรับบริการทั้งหมดได้ที่ ดับเบิ้ลยูไลฟ์ คลินิกเฉพาะทางสูตินรีเวช
ประจำเดือนผิดปกติรักษาอย่างไร
การรักษาขึ้นกับสาเหตุ เช่น หากมีติ่งเนื้อหรือรอยโรค การรักษาที่ดีที่สุดจะเป็นการตัดบริเวณที่ผิดปกติออก ในบางรายคุณหมออาจให้การรักษาด้วยยาเพื่อลดปริมาณเลือดที่ออกในเบื้องต้น ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาตามมาตรฐาน ซึ่งอาจเป็นการขูดมดลูก หรือการผ่าตัด โดยส่วนใหญ่ รอยโรคที่ผิดปกติมีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้ จึงจำเป็นต้องสังเกตอาการประจำเดือนที่ผิดปกติอยู่เสมอ และมาพบแพทย์เพื่อติดตามอาการตามที่นัดครับ หากใครกำลังเจอปัญหาประจำเดือนผิดปกติ เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด สามารถปรึกษาทางดับเบิ้ลยูไลฟ์คลีนิกได้ที่ไลน์ @wlife1