มีบุตรยากทำไงดี ต้องเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีแก้ที่เหมาะสม

มีลูกยากทําไงดี

หนึ่งในปัญหาของหลายครอบครัวที่พร้อมจะมีลูกแต่กลับพบว่าตนเองอยู่ในภาวะ “มีบุตรยาก” ซึ่งสาเหตุเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย หากตัวคุณหรือคนข้างกายกำลังอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวอยู่จนเกิดคำถามตามมาว่า มีบุตรยาก ทำไงดี ต้องศึกษาข้อมูลเหล่านี้ให้ครบถ้วนแล้วนำไปปรับใช้เพื่อแก้ไขพร้อมสร้างครอบครัวในฝันดังที่วาดภาพเอาไว้ได้เลย

ภาวะมีบุตรยาก คืออะไร

ภาวะมีบุตรยาก หรือ Infertility คือ ภาวะที่คู่สามีภรรยายังไม่สามารถมีบุตรด้วยตนเองจากวิธีธรรมชาติมากกว่า 1 ปี แม้จะมีเพศสัมพันธ์ปกติแบบไม่คุมกำเนิดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ก็ตาม เพราะตามข้อมูลพื้นฐานส่วนใหญ่มากกว่า 70% มักตั้งครรภ์ภายใน 6 เดือน หากมีกิจวัตรแบบสม่ำเสมอ ขณะที่ 80% มักตั้งครรภ์ภายใน 12 เดือน

สาเหตุของการมีบุตรยาก

ต้องบอกว่าสาเหตุของการมีบุตรยากเกิดขึ้นได้หลายปัจจัยทั้งฝั่งผู้ชายและฝั่งผู้หญิงโดยขอสรุปให้เห็นภาพมากขึ้น ดังนี้

ฝ่ายชาย

  • น้ำเชื้อไม่ปกติ อสุจิไม่แข็งแรง อสุจิหลั่งน้อย มีสภาวะเป็นหมัน
  • เคยอัณฑะอักเสบจากการติดเชื้อ หรือเคยผ่าตัดถุงอัณฑะ 

ฝ่ายหญิง

  • รังไข่หรือท่อนำไข่ผิดปกติ เช่น ไข่ไม่ตก ไข่น้อย ท่อนำไข่อุดตัน
  • มดลูกมีปัญหา เช่น โพรงมดลูกผิดปกติจนตัวอ่อนฝังตัวไม่สำเร็จ ปากมดลูกผิดปกติ เป็นต้น
  • การมีพังผืดหรือเกิดการอักเสบด้านในช่องท้อง

เริ่มแก้ด้วยการปรับพฤติกรรม 

ก่อนปรึกษาแพทย์คู่รักสามารถเริ่มต้นแก้ปัญหาด้วยตนเองเพื่อโอกาสในการตั้งครรภ์จากวิธีธรรมชาติ ดังนี้

  • ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน พยายามงดกลุ่มอาหารไขมันสูง เช่น มาการีน ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่ อาหารผัดหรือทอดน้ำมันท่วม แล้วเพิ่มไขมันดีเข้าสู่ร่างกาย เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ทานให้มากขึ้น รวมถึงทานผักใบเขียวเพื่อเพิ่มกรดโฟเลต วิตามินบี และอี
  • ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ อาจต้องเพิ่มการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่คุมกำเนิดให้มากขึ้นกว่าเดิม
  • ทำความรู้จักวันตกไข่ หรือ วันไข่ตก แต่ละรอบมักใช้เวลาประมาณ 28-35 วัน ซึ่งปัจจุบันมีแอปพลิเคชันเพิ่มความแม่นยำมากขึ้น
  • ลดความเครียด หากิจกรรมผ่อนคลายทำบ้าง เพราะความเครียดส่งผลต่อการมีบุตรยากเช่นกัน
  • งดเครื่องดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่

แก้ด้วยการรักษาทางการแพทย์ 

สำหรับคู่รักที่พยายามทำทุกทางด้วยวิธีธรรมชาติแต่ยังไม่สำเร็จ การเข้ารับการรักษาอย่างตรงจุดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกมากขึ้น ซึ่งขอแนะนำดังนี้

1. การใช้ยาเพื่อชักนำให้มีการตกไข่ 

มีทั้งแบบทาน (ส่วนใหญ่ทาน 5 วัน) และแบบฉีด (ฉีดราว 10-15 วัน เวลาเดิมทุกวัน) โดยแพทย์จะเป็นผู้กำหนดปริมาณที่เหมาะสม

2. การผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscope) 

เพื่อทำการวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้น อาจมีการตัดซีสต์ เลาะพังผืด การแก้ไขท่อนำไข่ตัน ฯลฯ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

3. การผ่าตัดแก้หมัน 

แพทย์จะผ่าตัดเพื่อให้ท่อนำไข่สองข้างเชื่อมต่อกัน ปกติวิธีนี้จะใช้กับผู้หญิงที่เคยทำหมันแล้วอยากกลับมามีลูกใหม่อีกครั้ง

4. การฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก (Intrauterine Insemination : IUI) 

แพทย์จะมีการคัดกรองเชื้ออสุจิของฝ่ายชายที่แข็งแรงที่สุดฉีดผ่านท่อพลาสติกขนาดเล็กโดยสอดเข้าไปตรงปากมดลูกให้น้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก โดยมักเลือกวันที่มีช่วงไข่ตก เพื่อให้อสุจิว่ายเข้าไปผสมกับไข่และเกิดการตั้งครรภ์

5. เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ 

บ้างก็เรียกวิธีนี้ว่าการปฏิสนธินอกร่างกาย หรือ การทำเด็กหลอดแก้ว มีด้วยกันหลายเทคนิคขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เช่น

  • IVF (In Vitro Fertilization) นำเซลล์ไข่กับเชื้ออสุจิมาฉีดลงในหลอดแก้วเพื่อสร้างตัวอ่อนจากนั้นจึงฉีดกลับเข้าสู่โพร่งมดลูก
  • ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) นำเชื้ออสุจิ 1 ตัว ฉีดเข้าสู่เซลล์ไข่ 1 ใบ เหมาะกับสาเหตุที่ผู้ชายอสุจิไม่แข็งแรง อสุจิน้อย มักใช้วิธีนี้เมื่อการทำ IVF ยังไม่ได้ผล

ภาวะมีบุตรยากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จากสาเหตุของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง การเริ่มต้นดูแลตนเองจึงมีส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ รวมถึงการใช้วิธีต่าง ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ช่วยสร้างครอบครัวอันแสนสมบูรณ์แบบของตนเอง