ตรวจสุขภาพผู้หญิง อายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจอะไรบ้าง?

ผู้หญิง ควรตรวจสุขภาพ อะไรบ้าง

เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัย 30 ปี ร่างกายจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ฮอร์โมนที่เริ่มสูงขึ้น ส่งผลต่ออารมณ์และรอบเดือน การฟื้นฟูร่างกายที่เริ่มชะลอตัวลง เพิ่มความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม เบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง ที่พบบ่อยในผู้หญิงวัย 30+ การตรวจสุขภาพผู้หญิง อายุ 30 ปีขึ้นไป จึงเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะส่งผลกับสุขภาพโดยตรงนั่นเอง 

การตรวจสุขภาพผู้หญิง อายุ 30 ปีขึ้นไป ต้องตรวจอะไรบ้าง?

การตรวจสุขภาพผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 40 ปี 

การตรวจสุขภาพพื้นฐาน

การตรวจสุขภาพพื้นฐาน ได้แก่ การวัดความดันโลหิต ชีพจร ส่วนสูง น้ำหนัก BMI, การตรวจระดับน้ำตาล-ตรวจไขมันในเลือด, ตรวจการทำงานของตับ, ตรวจการทำงานของไต, ตรวจปัสสาวะและเลือด CBC และการเอกซเรย์ปอด เพื่อหามะเร็ง และวัณโรค

การตรวจเฉพาะทางสำหรับผู้หญิง 

การตรวจสุขภาพผู้หญิง หมวดเฉพาะทาง เช่น การตรวจฮอร์โมนและระบบภาวะเจริญพันธุ์, การตรวจภายใน, การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก, การตรวจเต้านม, การตรวจความสามารถในการตั้งครรภ์, การตรวจ Colposcopy (Colposcopy คือการตรวจปากมดลูกด้วยกล้องคอลโปสโคป) เป็นต้น

การตรวจสุขภาพจิตและสมอง

การตรวจสุขภาพจิตและสมองก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้หญิงวัยทำงาน หรือคุณแม่มือใหม่ที่กำลังเลี้ยงลูก เช่น การคัดกรองภาวะซึมเศร้า หรือการเช็กภาวะออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น

การตรวจสุขภาพผู้หญิงอายุ 41 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 60 ปี 

นอกจากการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐานแล้ว ผู้หญิงที่มีอายุ 41 ปีขึ้นไป ควรตรวจฮอร์โมนวัยทองเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน เนื่องจากคนกลุ่มนี้อยู่ใน “วัยใกล้หมดประจำเดือน” และ “วัยหมดประจำเดือนแล้ว” ซึ่งมักมาพร้อมกับอาการแปรปรวนของฮอร์โมนที่จะส่งผลต่อผิวพรรณ กระดูก ช่องคลอด และอารมณ์ โดยค่าตรวจฮอร์โมนวัยทอง ราคาจะเริ่มต้นที่หลักพันบาทเท่านั้น 

การตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ เพศหญิงวัย อายุ 61 ปี ขึ้นไป 

การตรวจสุขภาพผู้สูงอายุเพศหญิง วัย 61 ปี ขึ้นไป จะต้องมีการตรวจระบบกระดูกและข้อเพิ่มเติม พร้อมกับการตรวจระบบสมองและจิตใจ คัดกรองอัลไซเมอร์และหาผู้มีภาวะซึมเศร้าในผู้สูงวัย นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพผู้หญิงวัย 61 ปี ขึ้นไป ยังต้องมีการตรวจหาโรคอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย อาทิ ตรวจตา, ตรวจการได้ยิน, ตรวจภูมิคุ้มกัน เป็นต้น

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพผู้หญิง

การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพผู้หญิง – รูปแบบทั่วไป

  • งดอาหาร-เครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) อย่างน้อย 8–12 ชั่วโมง ก่อนตรวจเลือด 
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง เพื่อให้ค่าความดันและชีพจรมีความแม่นยำ
  • งดยาบางชนิดก่อนตรวจ เช่น ยาเบาหวาน ยาลดไขมัน หรือยาขับปัสสาวะ และอย่าลืมแจ้งแพทย์ก่อนหยุดใช้ชั่วคราว

การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพผู้หญิง – การตรวจภายใน

  • ก่อนตรวจมะเร็งปากมดลูก ควรงดมีเพศสัมพันธ์อย่างต่ำ 48 ชั่วโมง, งดล้างช่องคลอดหรือใช้ยาสอด และไม่ควรตรวจช่วงมีประจำเดือน (รอให้หาย 3-4 วันก่อนค่อยไปตรวจ)
  • ก่อนตรวจเต้านม ควรหลีกเลี่ยงการใช้แป้ง, โรลออน หรือโลชั่นบริเวณรักแร้และหน้าอก
  • ก่อนอัลตราซาวด์ช่องท้องล่าง ควรดื่มน้ำและกลั้นปัสสาวะไว้ก่อนตรวจ
  • ก่อนตรวจมวลกระดูก ควรงดอาหารเสริมแคลเซียมและวิตามิน D อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • ก่อนตรวจปัสสาวะ อย่าลืมล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำเปล่า เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกปะปนกับปัสสาวะในโหลตรวจ

ตรวจสุขภาพผู้หญิง ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?

  • บัตรประชาชนผู้ตรวจ
  • บัตรนัด
  • สิทธิบัตรทอง หรือประกันสุขภาพ (หากมี)
  • รายการยาที่ใช้อยู่ (หากมี)
  • ผลตรวจเก่าหากเคยตรวจมาก่อน (หากมี)
  • หากมีอาการผิดปกติควรลิสต์ให้หมอด้วยเช่นกัน อาทิ ปวดหน่วงท้อง นอนไม่หลับ รอบเดือนผิดปกติ ฯลฯ

การตรวจสุขภาพผู้หญิงควรทำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง โดยการตรวจสุขภาพสตรี อายุ 30 ปีขึ้นไป นอกจากจะช่วยป้องกันโรคร้ายแรงลุกลามได้แล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนมีลูก หรือประสบปัญหามีบุตรยาก การตรวจร่างกายจะช่วยให้สามารถเตรียมพร้อมล่วงหน้า ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และเลือกเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ได้อย่างเหมาะสม เช่น การทำ IUI, IVF 

สำหรับค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพ ราคาจะเริ่มต้นที่หลักพันบาทเท่านั้น แม้แพ็กเกจตรวจสุขภาพผู้หญิงบางโปรแกรมจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่หากเทียบกับการป้องกันโรคร้ายที่อาจรักษาไม่ทัน ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะชีวิตของเรามีเพียงชีวิตเดียว