แพคเกจคุมกำเนิดระยะยาวประสิทธิภาพสูง
ตามข้อมูลทางสถิติพบว่า 30 – 50% ของการตั้งครรภ์ในประเทศไทย เป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ (Unplanned pregnancy) โดยส่วนใหญ่จะพบในคนอายุน้อย เมื่อไม่ได้วางแผน การดูแลตนเอง การใช้ยาที่อาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ รวมถึงการฝากครรภ์ที่ไม่สม่ำเสมอนำไปสู่สุขภาพของมารดา และทารกที่ไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้การดูแลเลี้ยงดูเด็กหนึ่งคนในทุกวันนี้มีต้นทุนสูงมากขึ้น การวางแผนเพื่อการมีบุตรในเวลาที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างมาก
(9.00 – 21.00 น.)
(10.00 – 20.00 น.)
คุมกำเนิดระยะยาว
ยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เนื่องจากใช้ง่าย หาซื้อได้ทั่วไป ราคาไม่แพง ประสิทธิภาพสูง และยังมีประโยชน์อื่น ๆ จากฮอร์โมนอีก (อ่านเพิ่มเติมได้ในโพสต์ W-Life EP1) แต่จากข้อมูลปัจจุบันพบว่า อัตราการตั้งครรภ์ในผู้ที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดมีสูงถึง 20% ซึ่งมีสาเหตุจากการใช้ยาไม่สม่ำเสมอ จึงนำไปสู่การใช้วิธีการที่ออกฤทธิ์ได้ดีในระยะยาว ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งหมด 2 วิธีใหญ่ ๆ ค่ะ
1. การฝังยาคุม
การฝังยาคุมเป็นการฝังแท่งยาฮอร์โมนเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังบริเวณท้องแขน ฮอร์โมนจะถูกปล่อยอย่างช้า ๆ เพื่อออกฤทธิ์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เป็นวิธีที่คุมกำเนิดได้นาน และมีประสิทธิภาพสูงถึง 99.8% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในปัจจุบัน (การทำหมันหญิงมีประสิทธิภาพ 99.5%) ในปัจจุบันยาฝังมี 2 ชนิด
- ยาฝัง Etonogestrel (Implanon NXT) คุมได้ 3 ปี มีหลอดยา 1 แท่ง
- ยาฝัง Levonorgestrel (Jadelle) คุมได้ 5 ปี จะมีหลอดยา 2 แท่ง (ฝังไว้ใกล้ๆกัน มีแผลเดียว)
รายละเอียด และคำแนะนำก่อนมาฝังยา
- สวมเสื้อแขนสั้น สามารถเปิดแขนขึ้นได้ง่าย (หลีกเลี่ยงเสื้อที่ซักยาก เพราะอาจเปื้อนน้ำยาฆ่าเชื้อ)
- ควรนัดเข้ามาฝังยาภายใน 1 สัปดาห์ นับจากประจำเดือนวันแรก หากไม่แน่ใจว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ให้ตรวจปัสสาวะด้วยตนเองมาก่อน
- คุณหมอจะฉีดยาชาก่อนทำหัตถการ จึงจะเจ็บเพียงเล็กน้อยตอนฉีดยาชาเท่านั้น ***หากแพ้ยาชา ให้แจ้งแพทย์ก่อน***
- หลังฝังยาอาจมีจ้ำเขียวบริเวณที่ฝัง สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการ หลีกเลี่ยงการนวดคลึง
- ยาฝังอาจทำให้เลือดออกกะปริดกะปรอยได้ เป็นผลข้างเคียง ไม่ใช่อาการแพ้ยา มักมีปริมาณลดลงหลังฝังยาครบ 6 เดือนขึ้นไป หากเลือดออกหลายวัน รู้สึกรำคาญ สามารถมาพบแพทย์เพื่อรับยาได้
ขั้นตอนการฝังยาคุม และการดูแลหลังฝังยา
- เริ่มจากให้นอนราบ กางแขน คุณหมอจะทำความสะอาดบริเวณท้องแขน แล้วปูผ้าปราศจากเชื้อ
- ฉีดยาชาบริเวณท้องแขนที่จะฝังยา จากนั้นจึงฝังแท่งยายาเข้าไป (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที)
- หลังฝังยาเสร็จแล้ว คุณหมอจะสอนคลำแท่งยา ก่อนปิดแผลปลาสเตอร์กันน้ำ
- จากนั้นจะพันผ้ายืดเพื่อลดการเป็นจ้ำเลือด ถ้ารู้สึกแน่นสามารถกลับไปคลายที่บ้านได้ แนะนำให้รัดไว้ 1 – 2 วัน และหลีกเลี่ยงการยกของหนักในช่วงนี้
- คุณหมอจะนัดติดตามอาการ 1 สัปดาห์เพื่อตรวจแผลฝังยา
รายการตรวจ | ค่าบริการ |
แพคเกจฝังยาคุมชนิด 3 ปี หรือ 5 ปี*รวมค่าแพทย์ ค่ายาฝัง ยาแก้ปวด ยาปรับฮอร์โมน 1 แผง และค่าบริการเปิดแผลแล้ว | 5000 |
2. การใส่ห่วง
เป็นการใส่ห่วงอนามัยเข้าไปในโพรงมดลูก ซึ่งนอกจากจะเป็นการขัดขวางการฝังตัวอ่อนโดยตรงแล้ว ยังมีกลไกที่ช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ได้อีก ในปัจจุบันมีห่วง 2 ชนิด ซึ่งสามารถคุมกำเนิดได้ยาวนานถึง 5 ปี
- ห่วงทองแดง (Copper IUD) เป็นห่วงอนามัยที่มีขดลวดทองแดงอยู่ ซึ่งทองแดงจะปรับสภาพในโพรงมดลูกไม่เหมาะกับการฝังตัวของทารก ทำให้มีประสิทธิภาพสูงถึง 99.5% ห่วงทองแดงไม่มีฮอร์โมนเป็นส่วนประกอบ จึงไม่รบกวนรอบประจำเดือนตามธรรมชาติของผู้ใส่ และยังปลอดภัยกับผู้ที่มีข้อห้ามของการใช้ฮอร์โมน เช่น เป็นมะเร็งเต้านม, มีภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำ, โรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากไม่มีฮอร์โมน ห่วงทองแดงจึงไม่สามารถป้องกันมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกในผู้ที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอได้ และอาจทำให้ปวดท้องประจำเดือนได้มากขึ้นในบางราย
- ห่วงฮอร์โมน (Levonorgestrel IUS) เป็นห่วงอนามัยที่มีฮอร์โมนอยู่ ซึ่งตัวฮอร์โมนจะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางตัวลงจนไม่สามารถเกิดการฝังตัวได้ ทำให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยาฝัง นอกจากนี้ยังสามารถลดอาการปวดท้องประจำเดือน และป้องกันโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ฮอร์โมนจากห่วงจะถูกปล่อยช้า ๆ ทำให้ผลข้างเคียงมีน้อยมาก
รายละเอียด และคำแนะนำก่อนมาใส่ห่วง
- สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย แนะนำใส่กระโปรงเนื่องจากต้องตรวจภายใน
- ควรนัดเข้ามาใส่ห่วงภายใน 1 สัปดาห์ นับจากประจำเดือนวันแรก หากไม่แน่ใจว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ให้ตรวจปัสสาวะด้วยตนเองมาก่อน
- สามารถทานยาแก้ปวด เช่น paracetamol หรือ ponstan ก่อนใส่ห่วง 30 นาทีเพื่อลดอาการได้
- คุณหมอจะใส่อุปกรณ์เพื่อยึดปากมดลูก อาจมีอาการหน่วงเล็กน้อย แล้วจึงใส่ห่วงเข้าไปในโพรงมดลูก
- กรณีที่ใส่ยาก คุณหมออาจใช้เครื่องมือเพื่อถ่างขยายปากมดลูกเพิ่มเติม อาจรู้สึกปวดหน่วงได้ โดยรวมจะใช้เวลาใส่ห่วงไม่เกิน 15 นาที
- หลังใส่ห่วงคุณหมอจะแนะนำการดูแล และเช็คสายห่วง แล้วนัดมาติดตามอาการ
รายการตรวจ | ค่าบริการ |
แพคเกจใส่ห่วงคุมกำเนิดชนิดห่วงทองแดง*รวมค่าแพทย์ ค่ายาแก้ปวด และค่าตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกก่อนใส่ | 3000 |
แพคเกจใส่ห่วงคุมกำเนิดชนิดห่วงฮอร์โมน*รวมค่าแพทย์ ค่ายาแก้ปวด และค่าตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกก่อนใส่ | 9500 |