เจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอด เหมือนเข็มทิ่ม เพราะอะไร?

ผู้หญิงหลายคนคงจะเคยมีอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอด คล้ายถูกเข็มทิ่มหรือมีดบาด โดยจะมาเป็นระยะ ๆ แต่จะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราวและหายไปเอง ทำให้บางคนไม่ได้ใส่ใจกับอาการนี้มากนัก แต่รู้หรือไม่ อาการนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ ทั้งเรื่องของฮอร์โมน การติดเชื้อ และโรคทางนรีเวช หากเข้าใจสาเหตุและรู้วิธีดูแลรักษาอย่างเหมาะสม จะป้องกันอาการเจ็บช่องคลอดเหมือนมีดบาดได้
สาเหตุของอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอด
1. ช่องคลอดแห้ง
อาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอด มักจะเกิดจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้เยื่อบุช่องคลอดบางลงและมีความชุ่มชื้นลดลง ส่งผลให้เกิดการเสียดสีและรู้สึกเจ็บเหมือนมีดบาดขณะเคลื่อนไหวหรือมีเพศสัมพันธ์นั่นเอง ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อย ๆ ในสตรีวัยหมดประจำเดือน สตรีหลังคลอดบุตร โดยเฉพาะคุณแม่ที่ให้นมบุตร (เนื่องจากระดับเอสโตรเจนต่ำ) และผู้ใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านฮอร์โมน หรือยารักษามะเร็งเต้านม เป็นต้น
2. การติดเชื้อในช่องคลอด
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บช่องคลอดเหมือนเข็มทิ่ม ก็คือการติดเชื้อในช่องคลอด เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย หรือพยาธิในช่องคลอด นอกจากจะทำให้เจ็บแสบ และมีอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอดแล้ว ยังทำให้มีตกขาวผิดปกติ หรือมีอาการคันได้อีกด้วย ควรรับเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด
3. การอักเสบที่เยื่อบุช่องคลอด
การอักเสบที่เยื่อบุช่องคลอด ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้มีอาการเจ็บช่องคลอดเหมือนเข็มทิ่มด้วยเช่นกัน ซึ่งเกิดจากการเสียดสีรุนแรง การใช้สบู่หรือสารทำความสะอาดที่ระคายเคือง หรือการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นเวลานาน ทำให้เกิดบาดแผลเล็ก ๆ และรู้สึกเจ็บช่องคลอด จี๊ด ๆ เหมือนถูกเข็มทิ่มนั่นเอง
4. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs)
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้มีอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอด หรือมีอาการเจ็บแสบหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็คือ การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริมที่อวัยวะเพศ (Genital Herpes) หรือหนองใน จนทำให้เกิดอาการปวดแสบ เจ็บจี๊ด เจ็บช่องคลอดเหมือนมีดบาด และมีแผลเล็ก ๆ รอบปากช่องคลอด
5. ปัญหากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
เมื่อกล้ามเนื้อที่อุ้งเชิงกรานเกิดการหดเกร็งหรือมีความผิดปกติ อาจทำให้เกิดอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอด หรือเจ็บช่องคลอดเหมือนเข็มทิ่ม โดยเฉพาะเวลามีเพศสัมพันธ์ เดิน หรือขณะนั่งนาน ๆ
อาการอื่นที่ควรสังเกตร่วมกับอาการเจ็บช่องคลอด จี๊ด ๆ
1. มีตกขาวผิดปกติ
นอกจากอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอดแล้ว หากมีตกขาวผิดปกติร่วมด้วย เช่น ตกขาวมีสีเขียว สีเหลือง สีข้น หรือมีกลิ่นแรง เป็นไปได้ว่าอาจมีการติดเชื้อในช่องคลอด เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย หรือพยาธิในช่องคลอด ทั้งยังเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งปากมดลูกได้อีกด้วย (ถ้ามีตกขาวเยอะกว่าปกติหลังร่วมเพศ) ควรควรพบแพทย์ หรือทำการตรวจ hpv ให้แน่ใจ
ซึ่งในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก แพทย์อาจแนะนำให้ทำการส่องกล้องมะเร็งปากมดลูก (Colposcopy) ซึ่งเป็นวิธีตรวจที่จะใช้กล้องขยายเพื่อดูเยื่อบุปากมดลูกอย่างละเอียด นับเป็นวิธีที่จะทำให้เห็นความผิดปกติที่อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็งปากมดลูกได้อย่างรวดเร็ว
2. คัน แสบ หรือบวม รอบปากช่องคลอด
หากมีอาการคัน แสบ หรือบวม รอบปากช่องคลอด เกิดร่วมกับอาการเจ็บช่องคลอดเหมือนมีดบาด เป็นไปได้ว่าอาจติดเชื้อรา ซึ่งเกิดจากการแพ้ผ้าอนามัย น้ำหอม สบู่ หรือการอักเสบของผิวหนังรอบอวัยวะเพศ และหากเป็นเรื้อรัง อาจบ่งบอกถึงโรคผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เช่น Lichen sclerosus
3. รู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอดขณะปัสสาวะ
ถ้ารู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอดขณะปัสสาวะ สันนิษฐานได้ว่า อาจเกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) หรือมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน ที่มักมีอาการปัสสาวะแสบหรือขัดร่วมด้วย
4. มีแผลหรือตุ่มน้ำใสบริเวณช่องคลอด
การมีแผลหรือตุ่มน้ำใสบริเวณช่องคลอด หรือบริเวณปากช่องคลอด เกิดร่วมกับอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอด เป็นสัญญาณของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริมที่อวัยวะเพศ (Genital herpes) มักเริ่มจากตุ่มน้ำใสแตกออกกลายเป็นแผลตื้น ๆ และเจ็บแสบ ควรเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที
5. เจ็บช่องคลอดเวลามีเพศสัมพันธ์
กรณีมีอาการเจ็บช่องคลอดเหมือนมีดบาดเวลามีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากช่องคลอดแห้ง ที่มักจะพบในผู้หญิงวัยทองหรือหลังคลอด หรืออาจเกี่ยวข้องกับปัญหากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหดเกร็งผิดปกติ (Vaginismus)
6. มีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน
ถ้ามีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน เช่น เลือดออกกะปริบกะปรอยหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือเลือดออกนอกเหนือจากรอบเดือน อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของมดลูก ปากมดลูก หรือเยื่อบุโพรงมดลูก ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้เร็วที่สุด
วิธีดูแลรักษาอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอดเบื้องต้น
1. ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี
สิ่งที่ควรทำเมื่อมีอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอด คือ การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นอย่างถูกวิธี โดยใช้น้ำสะอาดล้างเป็นประจำ โดยไม่จำเป็นต้องใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีกลิ่นหรือฟองมาก แต่ถ้าจะใช้ ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ใกล้เคียงกับช่องคลอด และหากยังมีอาการเจ็บช่องคลอดเหมือนเข็มทิ่ม ให้เลี่ยงการสวนล้างช่องคลอดไปก่อน เพราะอาจทำให้สมดุลของเชื้อจุลินทรีย์เสียไป และเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
2. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
หากยังมีอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอด ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงเกินไป เพราะอาจทำให้เยื่อบุช่องคลอดถลอกหรืออักเสบนั่นเอง และพยายามเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคือง และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ ควรหาเสื้อผ้าโปร่ง ๆ สบายตัวใส่ เพื่อลดการเสียดสีขณะขยับตัว
3. ใช้สารหล่อลื่นหากช่องคลอดแห้ง
สตรีวัยทอง คุณแม่หลังคลอด หรือผู้ที่ใช้ยาที่มีผลลดฮอร์โมนเอสโตรเจน ควรใช้สารหล่อลื่น เพื่อป้องกันไม่ให้ช่องคลอดแห้ง จนเกิดอาการเจ็บช่องคลอดเหมือนมีดบาดขณะขยับตัว โดยควรใช้เจลหล่อลื่นสูตรน้ำ เนื่องจากไม่ทำให้ช่องคลอดระคายเคือง (ทั้งยังไม่ทำลายถุงยางอนามัยอีกด้วย)
4. พบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
หากมีอาการเจ็บจี๊ด ๆ ตรงช่องคลอดอย่างต่อเนื่อง และรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หรือมีอาการร่วมอื่น ๆ เช่น ตกขาวผิดปกติ แผล หรือตุ่มน้ำ ควรไปคลินิกนรีเวชให้เร็วที่สุด เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง และเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง ก่อนปัญหาจะลุกลามจนเกินจะแก้ไข
อาการเจ็บจี๊ด ๆ บริเวณช่องคลอดเหมือนถูกเข็มทิ่ม อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ปัญหาเล็กน้อยอย่างช่องคลอดแห้งหรือการระคายเคือง ไปจนถึงโรคติดเชื้อหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การสังเกตอาการร่วมและดูแลตนเองอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ หากอาการไม่หายไปหรือมีอาการผิดปกติร่วม ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยและการรักษาที่เหมาะสม

นพ. พฤฒพร มณีรัตน์
สูตินรีแพทย์อนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
ประกาศนียบัตรด้านการผ่าตัดผ่านกล้องนรีเวช